Browse Month: August 2015

การเลือกWeb Hostingให้เหมาะกับเว็บไซต์ในการทำธุรกิจ

Web Hosting เป็นบริการให้เช่าพื้นที่ในการนำเว็บไซต์มาฝาก เพื่อให้เว็บไซต์คุณสามารถออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตได้ โดยเป็นการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ คือ ผู้ใช้บริการไม่ต้องยุ่งยากกับระบบเว็บเซิร์ฟเวอร์ เพราะทางผู้ให้บริการ Web Hosting จะเตรียมการทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อย แต่ต้องทำการ จดโดเมน ก่อนแล้วจึงมาเช่า Web Hosting เพื่อเก็บเว็บไซต์ เนื่องจากในปัจจุบันมีเว็บโฮสติ้งเกิดขึ้นมากมาย เราจะมีวิธีการเลือก Web Hosting อย่างไร เนื่องจาก Web Hosting ต่างๆ ในปัจจุบัน ช่างมากมายเสียเหลือเกิน เนื่องจากเปิดง่าย และในปัจจุบันยังมีทางเลือกแบบเช่าเครื่อง ซึ่งทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินมากอีกด้วย

หลักๆ ประเด็นสำคัญในการเลือก Web Hosting ก็คือ
1. บริษัทมั่นคง มีตัวตนที่แน่นอน สามารถติดต่อ Team Support ได้ เพราะเมื่อ Server เกิดขัดข้อง หรือมีปัญหา เราจะได้ติดต่อกับผู้ดูแลข้อมูลของเราได้ทุกเมื่อ
2. Server รุ่นไหน ตั้งอยู่ที่ไหน
3. Server ที่ใช้งาน เหมาะกับ ภาษาที่เราเลือกใช้ และเพียงพอต่อ application หรือไม่ เช่น หากใช้ภาษา HTML, PHP, Falsh ก็ควรเลือกเป็น Linux Server เพราะราคาถูกกว่าและ feature คุ้มกว่า (ไม่เสียค่า license ของ windows)
4. ราคา และ Package เหมาะกับเว็บไซต์ของเรา คือ เลือกเนื้อที่ ที่เราจะใช้

Hosting ตั้งอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ
ให้พิจารณาจาก กลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาที่เว็บของคุณคือใคร หากเป็นลูกค้าในประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ในประเทศ เพราะเวลาลูกค้าคุณกดดูข้อมูลในเว็บไซต์คุณ ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า ไม่ต้องวิ่งไปหาข้อมูลที่ต่างประเทศ แต่หากลูกค้าคุณเป็นลูกค้าต่างประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ เพื่อการเข้าถึงของลูกค้าคุณจะได้รวดเร็วกว่าที่จะต้องเข้ามาดูข้อมูลที่เก็บไว้ที Hosting ในเมืองไทย

ขนาดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล ต้องพอเพียงกับข้อมูลของ Web Site ที่จัดทำ
ปกติพื้นที่ขนาด 5 MB ก็เพียงพอต่อการนำเว็บไซต์ทางธุรกิจทั่วไป ที่มี่ภาพและข้อมูล ยกเว้นแต่หากท่านจะมีข้อมูลเป็นจำนวนมากๆ เช่น ข้อมูลรูปภาพหรือไฟล์เอกสารต่างๆ ที่จะเปิดให้ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดได้หลายรายการ และแต่ละไฟล์มีขนาดใหญ่ ท่านอาจจะต้องการพื้นที่เพิ่ม และบางแห่งจะนำ พื้นที่ๆเก็บ E-mail มานำไปคิดรวมกับพื้นที่ๆเก็บไฟล์ข้อมูลของเว็บไซต์คุณ ซึ่งอาจจะทำให้พื้นที่ของเว็บไซต์ท่านไม่เพียงพอต่อการใช้งานได้ เพราะจะต้องใช้ร่วมกับ E-mail ซึ่งต้องเช็กกับทางผู้ให้บริการ ก่อนตัดสินใจใช้ E-mail Box แยกออกจากพื้นที่เก็บไฟล์ข้อมูลเว็บหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่หากรวมกัน ท่านอาจจะต้องการพื้นที่ Host อย่างน้อย 15 MB เป็นอย่างต่ำ

การเลือก Hosting ที่ดีควรดูจากอะไรบ้าง
1. ประสิทธิภาพของเครื่อง Server ที่มาใช้ Host
คุณควรจะเช็กก่อนว่าสเป็กของเครื่อง Server ที่จะมา Host ข้อมูลของคุณมีประสิทธิภาพอย่างไรบ้าง CPU, RAM หรือ Harddisk มีขนาดเท่าไร เพราะจะมีส่วนสำคัญในการทำงานและการให้บริการของ Server อย่างมาก ซึ่งหากคุณเลือกสเป็กเครื่อง Server ที่ต่ำอาจจะมีราคาถูกกว่า เครื่องสเป็กที่สูง แต่ประสิทธิภาพและความเร็วในการให้บริการก็จะลดลงด้วย
2. จำนวนลูกค้าต่อเครื่อง Server ที่ให้บริการ
ให้สอบถามไปยัง Hosting ที่ให้บริการว่ามีลูกค้ากี่คน ต่อเครื่อง Server ของเค้า 1 เครื่อง ซึ่ง Hosting ที่ดีจะต้องมีการกำหนดจำนวนลูกค้ากับการรองรับในการให้บริการต่อ 1 Server ทั้งนี้เพื่อจะสามารถรองกรับการใช้งานของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ (จำนวนการรับลูกค้า ต่อเครื่อง Server ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่ประสิทธิภาพของเครื่อง Server)
3. ความเร็วในการรับส่งข้อมูล Web Hosting ที่ดีต้องมีความสามารถในการส่งข้อมูลได้รวดเร็ว
หาก Hosting ของท่านตั้งอยู่ที่ ISP ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่แล้วละก็ จะช่วยทำให้การรับ-ส่งข้อมูลจากเว็บไซต์ของท่านไปยังลูกค้าคุณได้เร็วยิ่งขึ้น
4. ระบบ Backup ข้อมูล Web Hosting
ระบบ Backup ข้อมูล Web Hosting ที่ดีควรมีระบบสำรองข้อมูล(Backup) รายวัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจนข้อมูลของ Web Site สูญหาย โดยคุณสามารถเรียกข้อมูลที่ Back Up เอาไว้กลับมาให้บริการได้
5. ปริมาณข้อมูลที่รับ-ส่งได้ (Bandwidth)
Hosting บางแห่งจะมีการจำกัดปริมาณข้อมูลที่มีการรับส่งเข้าออกจากเว็บไซต์ของคุณ โดยบางแห่งจะสามารถรับส่งได้ไม่จำกัด หรือบางแห่งอาจจะมีการกำหนดเอาไว้ เช่นต่อเดือน ปริมาณการรับส่งข้อมูลของเว็บไซต์คุณ 500 MB ซึ่งหากเกิน ก็อาจจะมีการชาร์ตเงินเพิ่มต่อจำนวนข้อมูลที่มีการรับส่งเพิ่มมากขึ้น
6. จำนวน e-mail ที่สามารถใช้ได้
เช็กว่าพื้นที่ๆคุณเช่า เค้าจะมีบริการ E-mail ให้กี่ E-mail ให้แก่คุณโดยคุณสามารถกำหนดชื่อ E-mail ได้ตามที่คุณต้องการ
7. การ Support หรือการให้บริการหลังการขาย
การให้บริการหลังการขายถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ท่านควรจะเช็กก่อนว่าเวลาในการให้บริการของ Web Hosting ในการให้บริการตอบคำถาม หรือติดตามปัญหาต่างๆ รวดเร็วแค่ไหน มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันไหม? (ส่วนใหญ่คนที่เลือกบริการ Hosting ต่างประเทศมักจะเจอปัญหาการติดต่อกับผู้ให้บริการลำบาก)
8. ราคาหรือค่าบริการ
อัตราค่าบริการที่ Web Hosting เรียกเก็บเป็นรายเดือนจะขึ้นอยู่กับความสามารถและประสิทธิภาพของ Hosting ที่ต้องการ โดยราคาค่าบริการบางแห่ง มีค่าบริการหลัก 10 บาทไปจนถึง เป็นหมื่นต่อเดือน โดยทั่วไปผู้ให้บริการ Web Hosting จะมีบริการให้เลือกหลายรูปแบบ บางที่จะเรียกเก็บค่า Setup หรือค่าแรกเข้าเมื่อเริ่มใช้บริการ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงปัจจัยบางส่วนในการเลือก Hosting ในการเก็บรักษาข้อมูลของเว็บไซต์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจให้ดีตั้งแต่แรก เพราะหากมีปัญหาและท่านต้องย้าย Hosting จะเป็นเรื่องที่จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมาก ดังนี้ ใช้เวลาเลือกซักนิดก่อน จะได้ใช้ไปนานๆ

ปัจจุบันธุรกิจเว็บ hosting เป็นธุรกิจที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยเงินลงทุนเพียงแค่ไม่กี่ร้อยบาท ถึงไม่กี่ หมื่นบาท ก็สามารถทำธุรกิจเว็บ hosting ได้แล้ว ทำให้มีผู้ประกอบการใหม่ๆ เข้ามาสู่ธุรกิจนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เป็นผู้ที่ทำเป็นอาชีพจริงๆ หรือ มือสมัครเล่น รวมถึงนักศึกษาที่ต้องการทดลองหรือหารายได้พิเศษจากธุรกิจนี้ ทำให้มีการแข่งขันกันสูง ราคาและคุณภาพการบริการก็หลากหลาย บทความนี้เป็นบทความที่ผมเขียนต่อจาก “การเลือกเว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) ให้เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณ” เพราะเห็นว่าน่าจะเพิ่มเติมคำแนะนำบางอย่างเข้าไป ในการเลือกผู้ให้บริการเว็บ hosting ซึ่งน่าจะช่วยให้ผู้ที่ กำลังมองหาเว็บ hosting ได้มีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นในการตัดสินใจ